นายจ้างมีศูนย์เศรษฐพัฒน์ไว้สำหรับฝึกอบรมลูกจ้างของนายจ้าง หรือบริษัทอื่นที่จะมาทำงานบนแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งกับนายจ้าง มุ่งหมายเพื่อฝึกอบรมบุคลากรให้ทำงานบนแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งได้อย่างปลอดภัยโดยไม่แสวงหากำไรในทางเศรษฐกิจ ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคใต้ ห่างไกลจากศูนย์ฝึกอบรมพัทยา จังหวัดชลบุรี

นายจ้างว่าจ้างลูกจ้างทำงานในตำแหน่งครูฝึกบุคลากร ลูกจ้างและนายจ้างได้ตกลงทำสัญญารักษาความลับไว้ต่อกัน โดยลูกจ้างยินยอมที่ป้องกันรักษาความลับของข้อมูลและสารสนเทศของนายจ้าง ต่อมาลูกจ้างเข้าเป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการในบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งประกอบกิจการอบรมบุคลากรด้านความปลอดภัยในการทำงานในทะเล ผู้เข้ารับการอบรมเป็นบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ลูกจ้างของนายจ้าง หรือลูกจ้างของบริษัทที่จะมาทำงานกับนายจ้าง ในระหว่างที่ลูกจ้างยังคงเป็นลูกจ้าง และเป็นผู้ถือหุ้น และกรรมการของบริษัทฯ แห่งหนึ่ง ลูกจ้างได้ส่งเอกสารข้อมูลตามรายงานการตรวจสอบไปยังอีเมล์ส่วนตัวของลูกจ้าง ซึ่งเอกสารดังกล่าวได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในในการตรวจสอบกิจการของนายจ้าง ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับกิจการและการบริหารจัดการองค์กรของนายจ้างเพื่อรับรองมาตรฐานการฝึกอบรมและการประเมินของศูนย์ฝึกอบรมเศรษฐพัฒน์ของนายจ้าง และข้อมูลในเอกสารดังกล่าวเป็นข้อมูลที่นายจ้างมีสิทธิหวงกันตามข้อตกลงระหว่างจำเลยกับสถาบันฝึกอบรมแห่งหนึ่ง ซึ่งระบุว่าห้ามทำซ้ำทั้งหมด หรือบางส่วนของเอกสาร และห้ามเปิดเผยเอกสารต่อบุคคลที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสถาบันฝึกอบรมแห่งหนึ่งก่อน

เมื่อลูกจ้างและนายจ้างได้ตกลงทำสัญญารักษาความลับไว้ต่อกัน โดยลูกจ้างยินยอมที่ป้องกันรักษาความลับของข้อมูลและสารสนเทศของนายจ้าง แสดงให้เห็นว่า นายจ้างให้ความสำคัญต่อการป้องกันและเก็บรักษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจการของนายจ้าง การที่ลูกจ้างนำข้อมูลส่งเข้าจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ส่วนตัวของลูกจ้างทำให้ง่ายต่อการส่งข้อมูลดังกล่าวต่อไปหรือนำข้อมูลออกไปโดยนายจ้างไม่อาจติดตามได้ การกระทำของลูกจ้างถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่สุจริตและเป็นการนำความลับของนายจ้างไปเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายจ้าง

การกระทำของลูกจ้างที่ส่งข้อมูลไปยังอีเมล์ส่วนตัวดังกล่าว จึงเป็นการจงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหายและถือเป็นการกระทำผิดวินัยตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานเป็นกรณีร้ายแรง นายจ้างจึงเลิกจ้างลูกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 119 (2) (4) ไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583 และไม่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 49

บทความโดย : สราวุธ ทองสุข ทนายความ

อ้างอิง :- คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7189/2562

Share This Story, Choose Your Platform!

นายจ้างมีศูนย์เศรษฐพัฒน์ไว้สำหรับฝึกอบรมลูกจ้างของนายจ้าง หรือบริษัทอื่นที่จะมาทำงานบนแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งกับนายจ้าง มุ่งหมายเพื่อฝึกอบรมบุคลากรให้ทำงานบนแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งได้อย่างปลอดภัยโดยไม่แสวงหากำไรในทางเศรษฐกิจ ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคใต้ ห่างไกลจากศูนย์ฝึกอบรมพัทยา จังหวัดชลบุรี

นายจ้างว่าจ้างลูกจ้างทำงานในตำแหน่งครูฝึกบุคลากร ลูกจ้างและนายจ้างได้ตกลงทำสัญญารักษาความลับไว้ต่อกัน โดยลูกจ้างยินยอมที่ป้องกันรักษาความลับของข้อมูลและสารสนเทศของนายจ้าง ต่อมาลูกจ้างเข้าเป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการในบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งประกอบกิจการอบรมบุคลากรด้านความปลอดภัยในการทำงานในทะเล ผู้เข้ารับการอบรมเป็นบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ลูกจ้างของนายจ้าง หรือลูกจ้างของบริษัทที่จะมาทำงานกับนายจ้าง ในระหว่างที่ลูกจ้างยังคงเป็นลูกจ้าง และเป็นผู้ถือหุ้น และกรรมการของบริษัทฯ แห่งหนึ่ง ลูกจ้างได้ส่งเอกสารข้อมูลตามรายงานการตรวจสอบไปยังอีเมล์ส่วนตัวของลูกจ้าง ซึ่งเอกสารดังกล่าวได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในในการตรวจสอบกิจการของนายจ้าง ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับกิจการและการบริหารจัดการองค์กรของนายจ้างเพื่อรับรองมาตรฐานการฝึกอบรมและการประเมินของศูนย์ฝึกอบรมเศรษฐพัฒน์ของนายจ้าง และข้อมูลในเอกสารดังกล่าวเป็นข้อมูลที่นายจ้างมีสิทธิหวงกันตามข้อตกลงระหว่างจำเลยกับสถาบันฝึกอบรมแห่งหนึ่ง ซึ่งระบุว่าห้ามทำซ้ำทั้งหมด หรือบางส่วนของเอกสาร และห้ามเปิดเผยเอกสารต่อบุคคลที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสถาบันฝึกอบรมแห่งหนึ่งก่อน

เมื่อลูกจ้างและนายจ้างได้ตกลงทำสัญญารักษาความลับไว้ต่อกัน โดยลูกจ้างยินยอมที่ป้องกันรักษาความลับของข้อมูลและสารสนเทศของนายจ้าง แสดงให้เห็นว่า นายจ้างให้ความสำคัญต่อการป้องกันและเก็บรักษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจการของนายจ้าง การที่ลูกจ้างนำข้อมูลส่งเข้าจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ส่วนตัวของลูกจ้างทำให้ง่ายต่อการส่งข้อมูลดังกล่าวต่อไปหรือนำข้อมูลออกไปโดยนายจ้างไม่อาจติดตามได้ การกระทำของลูกจ้างถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่สุจริตและเป็นการนำความลับของนายจ้างไปเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายจ้าง

การกระทำของลูกจ้างที่ส่งข้อมูลไปยังอีเมล์ส่วนตัวดังกล่าว จึงเป็นการจงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหายและถือเป็นการกระทำผิดวินัยตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานเป็นกรณีร้ายแรง นายจ้างจึงเลิกจ้างลูกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 119 (2) (4) ไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583 และไม่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 49

บทความโดย : สราวุธ ทองสุข ทนายความ

อ้างอิง :- คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7189/2562

Share This Story, Choose Your Platform!

นายจ้างมีศูนย์เศรษฐพัฒน์ไว้สำหรับฝึกอบรมลูกจ้างของนายจ้าง หรือบริษัทอื่นที่จะมาทำงานบนแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งกับนายจ้าง มุ่งหมายเพื่อฝึกอบรมบุคลากรให้ทำงานบนแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งได้อย่างปลอดภัยโดยไม่แสวงหากำไรในทางเศรษฐกิจ ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคใต้ ห่างไกลจากศูนย์ฝึกอบรมพัทยา จังหวัดชลบุรี

นายจ้างว่าจ้างลูกจ้างทำงานในตำแหน่งครูฝึกบุคลากร ลูกจ้างและนายจ้างได้ตกลงทำสัญญารักษาความลับไว้ต่อกัน โดยลูกจ้างยินยอมที่ป้องกันรักษาความลับของข้อมูลและสารสนเทศของนายจ้าง ต่อมาลูกจ้างเข้าเป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการในบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งประกอบกิจการอบรมบุคลากรด้านความปลอดภัยในการทำงานในทะเล ผู้เข้ารับการอบรมเป็นบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ลูกจ้างของนายจ้าง หรือลูกจ้างของบริษัทที่จะมาทำงานกับนายจ้าง ในระหว่างที่ลูกจ้างยังคงเป็นลูกจ้าง และเป็นผู้ถือหุ้น และกรรมการของบริษัทฯ แห่งหนึ่ง ลูกจ้างได้ส่งเอกสารข้อมูลตามรายงานการตรวจสอบไปยังอีเมล์ส่วนตัวของลูกจ้าง ซึ่งเอกสารดังกล่าวได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในในการตรวจสอบกิจการของนายจ้าง ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับกิจการและการบริหารจัดการองค์กรของนายจ้างเพื่อรับรองมาตรฐานการฝึกอบรมและการประเมินของศูนย์ฝึกอบรมเศรษฐพัฒน์ของนายจ้าง และข้อมูลในเอกสารดังกล่าวเป็นข้อมูลที่นายจ้างมีสิทธิหวงกันตามข้อตกลงระหว่างจำเลยกับสถาบันฝึกอบรมแห่งหนึ่ง ซึ่งระบุว่าห้ามทำซ้ำทั้งหมด หรือบางส่วนของเอกสาร และห้ามเปิดเผยเอกสารต่อบุคคลที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสถาบันฝึกอบรมแห่งหนึ่งก่อน

เมื่อลูกจ้างและนายจ้างได้ตกลงทำสัญญารักษาความลับไว้ต่อกัน โดยลูกจ้างยินยอมที่ป้องกันรักษาความลับของข้อมูลและสารสนเทศของนายจ้าง แสดงให้เห็นว่า นายจ้างให้ความสำคัญต่อการป้องกันและเก็บรักษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจการของนายจ้าง การที่ลูกจ้างนำข้อมูลส่งเข้าจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ส่วนตัวของลูกจ้างทำให้ง่ายต่อการส่งข้อมูลดังกล่าวต่อไปหรือนำข้อมูลออกไปโดยนายจ้างไม่อาจติดตามได้ การกระทำของลูกจ้างถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่สุจริตและเป็นการนำความลับของนายจ้างไปเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายจ้าง

การกระทำของลูกจ้างที่ส่งข้อมูลไปยังอีเมล์ส่วนตัวดังกล่าว จึงเป็นการจงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหายและถือเป็นการกระทำผิดวินัยตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานเป็นกรณีร้ายแรง นายจ้างจึงเลิกจ้างลูกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 119 (2) (4) ไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583 และไม่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 49

บทความโดย : สราวุธ ทองสุข ทนายความ

อ้างอิง :- คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7189/2562

Share This Story, Choose Your Platform!

Get a personal consultation.

Contact ! 089 510 4758 | [email protected]

ขอคำปรึกษาทางกฎหมายฟรี

ติดต่อทนายความ ! 089 510 4758 | [email protected]